ในทุก ๆ การทำงานย่อมมีความเครียดแฝงเอาไว้ สิ่งที่บริษัทพอจะช่วยเหลือได้ คือการจัดสวัสดิการบริษัทที่เหมาะสมให้กับพนักงาน โดยเฉพาะในยุคนี้ที่พนักงานให้ความสำคัญกับ Work-life balance กันเป็นอย่างสูง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สวัสดิการบางอย่างที่บริษัทมองว่าสามารถช่วยเหลือให้พนักงานมีชีวิตที่ดี มีสุขภาพจิตที่ดี อาจเป็นผลเสียกับตัวพนักงานมากกว่า

Work life balance คืออะไร และทำไมบริษัทต้องให้ความสำคัญ

Work Life Balance คือ การจัดสมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัว ทั้งในเรื่องของพลังงานและเวลา เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและก้าวหน้าในอาชีพ ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีเวลาส่วนตัวที่จะได้อยู่กับครอบครัว ทำงานอดิเรก หรือแม้กระทั่งการพักผ่อนและมีเวลาเป็นของตัวเอง

เหตุผลสำคัญ ที่ทำให้บริษัทต้องหันมาใส่ใจกับ Work-life balance ของพนักงาน เพราะ การที่พนักงานไม่เครียด มีสุขภาพจิตดี และมีเวลาเป็นของตัวเอง จะส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาวมากกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของการทำงาน การสนับสนุน Work-life balance จะทำให้พนักงานโฟกัสกับงานที่ทำได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอาการ Burnout ที่จะทำให้ Performance ลดลง ช่วยให้พนักงานมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในทีม สร้างบรรยากาศการทำงานที่น่าอยู่ และทำให้ชื่อเสียงของบริษัทดีในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ในบางครั้ง ทางบริษัทก็อาจจะจัดสวัสดิการพนักงานบางอย่างที่บริษัทคาดว่า จะช่วยส่งเสริม Work life balance ให้กับพนักงาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยิ่งทำให้พนักงานเครียดกว่าเดิม จากผลการศึกษาดังนี้

เปิดกรณีศึกษา : คอร์สคลายเครียดจากบริษัท สวัสดิการที่ทำพนักงานเครียดกว่าเดิม

เป็นที่รู้กันดีว่า การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจผ่อนคลาย เกิดความสงบในจิตใจ ช่วยให้ผู้ฝึกสมาธิจดจ่อกับปัจจุบัน นั่นจึงทำให้บริษัทระดับโลกอย่าง Apple Google หรือ Nike สร้างห้องนั่งสมาธิ เป็นสวัสดิการพนักงาน เพื่อให้พนักงานใช้เวลาระหว่างวันช่วงสั้น ๆ ในการฝึกสมาธิควบคุมจิตใจ ผ่อนคลายจากการทำงานที่เคร่งเครียด

แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น การกระตุ้นให้พนักงานนั่งสมาธิ กลับส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะหลักการสำคัญในการทำสมาธิคือการปล่อยวาง ไม่ยึดติด เพิกเฉยต่อสิ่งเร้า โฟกัสอยู่กับปัจจุบัน ทว่าบริษัทกลับต้องการให้พนักงานมีแรงกระตุ้น เกิดแรงบันดาลใจ มุ่งเป้าไปที่อนาคต นอกจากนี้ การให้พนักงานทำสมาธิ ยังไม่ได้ช่วยแก้ต้นตอของปัญหาที่พนักงานที่กำลังเผชิญอยู่ เช่น งานล้นมือ ขาดคนสอนงาน และยิ่งบอกให้พนักงานไปผ่อนคลายจิตใจ ยิ่งทำให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทเพิกเฉยต่อปัญหาที่แท้จริง ให้พนักงานไปแก้ที่ตัวเองมากกว่าที่จะแก้ที่ระบบ ดังนั้นการทำสมาธิ นอกจากจะไม่ตอบโจทย์ในการแความเครียดแล้ว ยังทำให้พนักงานเครียดกว่าเดิม ไม่ช่วยส่งเสริม Work-Life Balance แม้แต่น้อย

สวัสดิการบริษัท อะไรบ้าง ที่พนักงานอยากได้

คำถามสำคัญเมื่อมาถึงการจัดสวัสดิการให้พนักงาน เพื่อส่งเสริม Work-Life Balance คือมีสวัสดิการอะไรบ้าง ที่พนักงานอยากได้ และบริษัทสามารถจัดหาให้ได้ ซึ่งการที่ HR จะรู้ได้ คือผ่านการสอบถามจากพนักงานโดยตรง เพราะบริษัทแต่ละบริษัทก็มีงบประมาณที่แตกต่างกัน มีการทำงานที่แตกต่างกัน และมีวัฒนธรรมในองค์กรที่แตกต่างกัน แต่จากการสำรวจที่ตีพิมพ์ใน Harvard Business Review ได้เผยให้เห็นถึงสวัสดิการพนักงานที่พนักงานต้องการ โดยเรียงตามลำดับ ดังนี้

  • ประกันสุขภาพ ทำฟัน ค่าแว่นตา
  • เวลาทำงานที่ยืดหยุ่น
  • วันลาพักร้อน
  • Work From Home
  • วันลาไม่จำกัด
  • ลาคลอด / วันลาสำหรับพ่อแม่มือใหม่
  • สมาชิกฟิตเนส
  • เงินอุดหนุนบุตร / บริการรับเลี้ยงเด็ก
  • ฟรีขนม ฟรีกาแฟ
  • สัมมนาประจำปี / Outing ประจำปี
  • กิจกรรมส่งเสริมความสามัคคี

สรุป

ก่อนที่บริษัทจะจัดสวัสดิการบริษัทให้พนักงาน ก็ควรที่จะสอบถามความต้องการโดยตรงจากพนักงาน ซึ่งสวัสดิการบางอย่าง สามารถช่วยส่งเสริมการทำงาน และสร้าง Work-Life Balance ได้จริง แต่สวัสดิการบางอย่าง อาจเป็นสิ่งที่บริษัทอยากจัดหาให้ เพราะมองว่าช่วยเหลือในเรื่องการทำงาน แต่ในความเป็นจริงไม่ตอบโจทย์การทำงาน และส่งผลเสียตามมาอีกด้วย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ HR และการพัฒนาองค์กรได้ที่
Blog:    www.empeo.com/blog 
Facebook:    www.facebook.com/myempeo
Youtube:   www.youtube.com/empeo


Tags

work-life balance, สวัสดิการ


You may also like

>